เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ ( 16 ม.ค.2564 ) ได้เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ปิคอัพพุ่งชนป้ายปั๊มน้ำมัน ปตท. จนทั้งรถทั้งป้ายพังยับเยิน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีแต่เพียงทรัพย์สินที่เสียหาย และเศษชิ้นส่วนของรถยนต์แตกกระจายเกลื่อนบริเวณทางออกของปั๊มน้ำมัน ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ตรงข้าม สภ.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ บนถนนศรีรัตน์ เส้นทางจากอำเภอรัตนบุรี จะไป อ.ศีขรภูมิ
ต่อมา พ.ต.ท.อิทธิพล กระจายศรี สว.(สอบสวน) สภ.รัตนบุรี ได้รับแจ้งเหตุ จึงรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.รัตนบุรี ไปเพียงประมาณ 20 เมตร พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดอำเภอรัตนบุรี โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบประชาชนกำลังมุงดูเหตุการณ์ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเป็นจำนวนมาก โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ ไฮลัก 2 ประตู สีบลอน หมายเลขทะเบียน ฒฒ 3061 กรุงเทพฯ ในสภาพด้านหน้ารถเสียหายพังยับจนถึงหม้อน้ำ ล้อแม็กและยางรถด้านคนขับแตกเสียหาย จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับนายทศพร จันทร์เพ็ง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งรับว่าเป็นคนขับรถชนป้าย โดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนซึ่งทำงานอยู่ในตัวอำเภอรัตนบุรี และเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง จึงได้ขับรถจะกลับไปทานข้าวเที่ยงที่บ้าน ที่บ้านผือซึ่งห่างจากตัวอำเภอออกไปประมาณ 1 ก.ม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้มีรถคันสีดำป้ายแดงขับออกจากปั๊มน้ำมัน ปตท. ในระยะกระชั้นชิด จนทำให้ตนหักรถหลบไม่ทันและเบรกไม่อยู่ จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งไปชนป้ายทางเข้าปั๊มน้ำมันจนรถและป้ายพังเสียหาย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุรถคันดังกล่าวก็ได้วิ่งหายไป โดยมุ่งหน้าไปทางตลาดสดอำเภอรัตนบุรี โดยหลังเกิดเหตุไม่นานก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.รัตนบุรี มาประสบเหตุพอดี จึงได้ช่วยออกติดตามรถคันดังกล่าวได้ทันที่บริเวณตลาดในตัวอำเภอรัตนบุรี และได้เชิญตัวมาที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนทางด้าน นายวรดิษฐ์ พรมโคตร อายุ 42 ปี เป็นชาว ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถป้ายแดงสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า แค็บ ไฮลัก 2 ประตู หมายเลขทะเบียนป้ายแดง อ-8101 กรุงเทพฯ ได้เปิดเผยว่า ตนได้เข้าไปกดเงินในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ เสร็จแล้วก็จะเข้าไปทำธุระในตัวอำเภอรัตนบุรี โดยขับรถออกมาจากปั๊มน้ำมันตรงช่องทางออก ซึ่งหลังจากที่รถของตนขับออกมาพ้นปั๊มน้ำมันแล้ว ซึ่งห่างจากรถคันที่เกิดเหตุมาก ก็ได้สังเหตุเห็นรถคันที่เกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็ว ซึ่งตนไม่ได้ตัดหน้ากระชั้นชิดแต่อย่างใด และเหตุที่ตนไม่ได้จอดดูไม่ใช่จะหลบหนี แต่เป็นเพราะตนขับรถห่างจากจุดนั้นแล้ว จึงไม่ได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ซึ่งหลังจากที่ทั้งสอบฝ่ายต่างโต้เถียงกันได้สักพัก พ.ต.ท.อิทธิพล กระจายศรี จึงได้เข้าพบเจ้าของปั๊มน้ำมันเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อได้ดูกล้องวงจรปิดทุกมุมกล้องแล้วพบว่า รถคันสีดำป้ายแดงได้ขับออกจากปั๊มน้ำมันทางช่องทางออก ไม่ใช่ช่องทางเข้าซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด ตามที่ผู้เสียหายอีกคันกล่าวอ้าง และก่อนเกิดเหตุพบว่ารถคันสีดำได้ขับออกจากทางออกของปั๊มน้ำมันข้ามไปยังอีกเลนหนึ่งฝั่งตรงข้ามแล้ว สักพักก็เห็นรถปิคอัพอีกคันตามที่เห็นในกล้องวงจรปิด วิ่งมาชนป้ายทางเข้าของปั๊มน้ำมันจนพังเสียหายดังกล่าว
หลังจากนั้น สารวัตรสอบสวน ร้อยเวร สภ.รัตนบุรี ก็ได้เรียกเจ้าของปั๊มและเจ้าของรถมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่ทางด้านเจ้าของปั๊มน้ำมันใจดี ไม่เอาเรื่องและจะขอซ่อมป้ายเอง โดยทางด้านเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุ ก็เรียกประกันภัยมาดูเพื่อตีราคาค่าเสียหาย ก่อนจะให้รถยกของหน่วยกู้ภัยฮุก31 มาทำการยกรถเข้าอู่ซ่อมต่อไป ส่วนทางด้านเจ้าของรถป้ายแดงคันสีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการบันทึกชื่อและรายละเอียดไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และก็โชคดีที่รถไม่เสียหลักพุ่งเข้าชนหัวจ่ายน้ำมันภายในปั๊ม มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุสลดครั้งใหญ่ขึ้นมาก็ได้
ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์