เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 นายหมวดเอกไพรัช แก้วมณี ผู้บังคับกองร้อยรักษาดินแดนจังหวัดระนองที่ 1 นำกำลัง ชุด อส.สมุทร จากฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง พร้อมเรือเร็ว เข้าร่วมภารกิจ ลาดตระเวนชายฝั่งทะเล และตามแนวลำน้ำกระบุรี เน้นพื้นที่ชั้นใน ตามขอบชายแดน และช่องทางตามธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนภารกิจของ ทหารเรือทัพภาค 3, ทหารบก กองกำลังเทพสตรี,และตำรวจน้ำระนอง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดนด้านทิศใต้ ที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยมีคนเป็นพาหนะนำโรค
ในส่วนของฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง โดยกองร้อยรักษาดินจังหวัดระนองที่ 1 ได้รับคำสั่งจากจังหวัดระนอง พร้อมฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอของจังหวัดระนอง ให้ร่วมสนธิกำลัง ในการออกลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำ โดยเน้นพื้นที่ชั้นใน ทางน้ำได้นำเรือเร็วออกลาดตระเวนตลอดแม่น้ำกระบุรีไปจนถึงทะเลอันดามัน ซึ่งแม่น้ำกระบุรีจะมีเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กออกทำการจับสัตว์น้ำ ระหว่างเส้นแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีการลักลอบถ่ายเทชาวเมียนมา ที่ลักลอบเข้าเมืองกันกลางลำน้ำ โดยอาศัยชาวประมงพื้นบ้านในการนำพา ซึ่งรู้จักภูมิประเทศและช่องทางตามธรรมชาติเป็นอย่างดี
การออกลาดตระเวนทุกครั้ง จะมีการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนชาวประมงพื้นบ้านที่ออกตกปลาในทุกจุด ถึงเรื่องความเสี่ยงในการนำพาหนะนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดในจังหวัดระนองได้ หากมีการลักลอบนำพาชาวต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาจากการลาดตะเวนทั้งทางทะเลและทางบก จากการพูดคุยกับชาวประมงพื้นบ้าน ทุกคนเข้าใจถึงสถานการณ์ พร้อมให้ความร่วมมือกับทางราชการเต็มที่ หากพบเห็นว่าจะมีผู้ที่พยายามลักลอบเข้าเมืองจะรีบแจ้งเจ้าหน้าฝ่ายปกครองหรือผู้นำชุมชนทันทีเพื่อเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมทันที
กฤษดา เอกวานิช ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ระนอง